
ผู้ค้นพบพาหะนำไข้มาลาเรีย
20 สิงหาคม ค.ศ. 1897 ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากวันนั้น โรนัลด์ รอส (Ronald Ross) แพทย์ชาวอังกฤษซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลทหารแห่งเซกันเดอราบาด ประเทศอินเดีย พบว่ายุงก้นปล่อง (Anopheles) คือพาหะมัจจุราชที่นำไข้มาลาเรียมาสู่คน หลังจากนั้นอีก 5 ปีรอสก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์และสรีรวิทยา
รอสเกิดที่เมืองอัลโมรา ประเทศเนปาล บิดาเป็นทหาร ในวัยเด็กรอสตั้งใจจะเป็นจิตรกร ขณะที่บิดาต้องการให้เรียนแพทย์ เขาจึงถูกส่งให้ไปศึกษาวิชาแพทยศาสตร์โรงพยาบาลเซนต์บาร์โทโลมิว (St. Bartholomew Hospital) ในลอนดอน ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ หลังจากสำเร็จการศึกษาจึงเดินทางไปทำงานเป็นแพทย์ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งขณะนั้นโรคมาลาเรียกำลังระบาดรุนแรงและไม่มีทางรักษา
ดังนั้น ใน ค.ศ. 1888 รอสจึงลาพักร้อนไปประเทศอังกฤษเพื่อรับการอบรมด้านสาธารณสุขและพยาธิวิทยา จากนั้นจึงเดินทางกลับอินเดียและเริ่มค้นคว้าเรื่องโรคมาลาเรียในเลือดคน ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1880 นายแพทย์ชาร์ลส์ เลฟวแรน (Charles Leveran) พบว่าพลาสโมเดียม (Plasmodium) คือ เชื้อที่ก่อให้เกิดโรคมาลาเรีย
ต่อมารอสเดินทางไปประเทศอังกฤษอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1894 การมาอังกฤษครั้งนี้เขาได้พบลกับแพรทริค แมนชัน (Patrick Manson) ผู้ค้นพบพาหะของโรคเท้าช้าง (Elephantiasis) นักพยาธิวิทยาผู้ได้รับการขนานนามให้เป็น "บิดาแห่งยารักษาโรค" แมนสันบอกกับรอสว่า เขาสงสัยว่ายุงคือพาหะของไข้มาลาเรีย
ภายหลังเมื่อกลับสู่ประเทศอินเดียที่เมืองกัลกัตตา รอสจึงเริ่มทดลองด้วยการเอายุงไปกัดเพื่อนร่วมงาน ผลปรากฎว่า เพื่อนคนนั้นไม่ได้ป่วยเป็นไข้ดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น รอสจึงเปลี่ยนแผนวิจัย โดยศึกษาธรรมชาติของยุงก่อน ต่อมาอีกสองปี เขาค้นพบว่า เชื้อมาลาเรียจะพบเฉพาะในยุงชนิดอโนฟิเลส (Anopheles) หรือยุงก้นปล่องเท่านั้น
จากนั้นรอสพยายามแสดงให้เห็นว่า เชื้อมาลาเรียเนิ่มแฝงตัวอยู่ในต่อมน้ำลายของยุง เมื่อยุงกัดคนเชื้อมาลาเรียจากต่อมน้ำลายของยุงก็จะถูกฉีดเข้าสู่เลือด มีผลทำให้คนนั้นป่วยเป็นไข้มาลาเรียทันที
กล่าวได้ว่าการค้นพบนี้สำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้โลกรู้ว่ายุงก้นปล่องมีพิษสงเพียงใดแล้ว ผลงานของรอสยังทำให้วงการแพทย์สามารถป้องกันคนนับล้านไม่ให้ป่วยเป็นโรคนี้ได้ด้วยการนอนกางมุ้ง
โรนัลด์ รอส จึงเปรียบเสมือนวีรบุรุษของมนุษยชาติ โดยเฉพาะผู้คนที่อินเดีย ดินแดนที่กำลุงถูกคุกคามด้วยโรคมาลาเรีย ชาวอินเดียต่างพากันขนานนามชายผู้นี้ว่า เซอร์ โรนัลด์ รอส (Sir Ronald Ross) ทั้งการค้นพบยังนำมาซึ่งชื่อเสียงและเกียรติยศมากมาย ที่สำคัญ คือการได้รับรางวัลโนเบล สาขาการแพทย์และสรีรวิทยา ปี ค.ศ. 1902 และเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมผู้มีความรู้ในประเทศแถบยุโรป และในอีกหลายทวีปด้วย
รอสแต่งงานกับโรซา เบสซี บล็อกซัม ในปี ค.ศ. 1889 ทั้งสองมีบุตรชายด้วยกันสองคน คือ โรนัลด์กับชาร์ลส์ และบุตรีอีกสองคน คือ โดโรธีกับซิลเวีย ภรรยาของเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1931 ขณะที่วาระสุดท้ายในชีวิตของรอสมาถึงในอีกหนึ่งปีให้หลัง หลังจากล้มป่วยมาเป็นเวลานาน เขาเสียชีวิตที่สถาบันรอส (Ross Institute) นั่นเอง
ผู้คนในประเทศอินเดียยังคงระลึกถึงเซอร์ โรนัลด์ รอส ด้วยการให้เกียรติอย่างสูง เพราะการทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย โดยมุ่งหวังจะให้ทุกคนรอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชที่ชื่อ มาลาเรีย ในที่สุด เราก็ควบคุมโรคร้ายนี้ได้ แม้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ถือว่าดีกว่าเดิมมาก มีถนนหลายสายในหลาย ๆ เมืองของอินเดียที่ตั้งชื่อตามเขา ในกรุงกัลกัตตา ถนนสายเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลเพรสซิเดนซี เยเนรัล (Presidency General Hospital) จากเดิมที่ชื่อคิดเดอร์พอร์ (Kidderpore) ก็ถูกเปลี่ยนเป็นเซอร์โรนัลด์ รอ ซารานี (Sir Ronald Ross Sarani).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น